This is default featured slide 1 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 2 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 3 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 4 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

This is default featured slide 5 title

Go to Blogger edit html and find these sentences.Now replace these sentences with your own descriptions.

วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวงานทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุดรธานี 2555

ถ้าปลายปีนี้ใครที่ยังไม่มีแผนที่จะไปท่องเที่ยวที่ไหน เราอยากให้ไป เที่ยวงานทุ่งศรีเมือง จังหวัดอุดรธานี ที่นี่กันเลยครับ เพราะว่าปีหนึ่งจะจัดขึ้นแค่ครั้งเดียว รายละเอียดจะเป็นอย่างไร มาดูกันเลยครับ

ข่าวรายงานว่า ท่าน รองผวจ.อุดรฯ ได้จัดให้มีการประชุมจัด งานทุ่งศรีเมือง เพื่อหารายได้ เป็นทุนสาธารณประโยชน์ พร้อมเชิญ นายกฯ มาร่วมเปิดงานทุ่งศรีเมืองนี้ด้วย ขณะนี้ที่หอประชุมทองใหญ่ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายนพวัชร สิงห์ศักดา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ได้ประชุมคณะกรรมการจัดงานทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี ประจำปี พ.ศ. 2555 ซึ่งจะจัดให้มีขึ้นในระหว่างวันที่ 1 - 15 ธ.ค. นี้ ณ บริเวณสนามทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี ซึ่ง ทางจังหวัดอุดรธานี ได้ร่วมกับเหล่ากาชาดของจังหวัดอุดรธานี ทั้งในส่วนราชการ หน่วยงานองค์กรภาครัฐ และเอกชน เพื่อร่วมกันจัดหารายได้เอาไว้เป็นทุน เอาไว้ใช้จ่ายในกิจกรรมสาธารณะประโยชน์ของจังหวัดในอนาคต และกิจกรรมของเหล่าสำนักงานกาชาดจังหวัดอุดรธานี ส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจของ จ.อุดรธานี ให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งยังส่งเสริมกลุ่มอาชีพและสนับสนุนภูมิปัญญาไทย อันที่จะสร้างรายได้แก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นงานใหญ่ของ จ.อุดรธานี มีการประกวดธิดาผ้าหมี่ขิด ในงานอีกด้วย การจัดงานในครั้งนี้ พิธีเปิดงานทุ่งศรีเมือง วันที่ 1 ธ.ค. 2555 ได้เรียนเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพิธีเปิดด้วย

ถือได้ว่าเป็นงานที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งในจังหวัดอุดรธานี ที่ให้ผู้คนและนักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวงานทุ่งศรีเมือง ประจำปีนี้กัน ใครที่อยู่ในจังหวัดอุดรธานี หรืออยู่ใกล้ๆ ก็ขอเชิญมาเที่ยวงานนี้ได้เลยนะครับ หลังจากได้ เที่ยวงานลอยกระทง มาได้ ก็จัดงานใหญ่ต่อเนื่องเลยครับ เยี่ยมจริงๆ

วันพุธที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวเชียงคาน ไปรับลมหนาวกันดีกว่า

อีสานอินดี้ ท่องเที่ยว วันนี้จะพาไปรับลมหนาว เราไปหาที่เที่ยวเชียงคานกันดีกว่าครับ ที่เชียงคาน อยู่ในจังหวัดเลย ถึงแม้จะเป็นเมืองเล็กๆ ทางภาคอีสานด้วยแล้ว แต่ก็มีผู้คนอาศัยและน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน จนทำให้หลายคนที่สนใจอยากจะไปเที่ยวหน้าหนาว เลยหันมาให้ความสนใจกับเชียงคานนี้กันเยอะแยะมากมายเลยครับ

เที่ยวเชียงคาน รับลมหนาวนี้ ด้วยคำล่ำลือต่อๆกันมาว่า เชียงคาน มีทั้งความงามจากธรรมชาติ และความเงียบสงบ เหมาะแก่การท่องเที่ยวด้วยแล้ว ผู้คนที่เชียงคานก็มีอัธยาศัยไมตรีไม่น้อยไปกว่ากันเลย เชียงคานเป็นอำเภอตั้งอยู่ที่ จังหวัดเลย ที่มีอาณาเขตติดกับแม่น้ำโขงซึ่งเป็นที่กั้นเขตแดนไทย กับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เสน่ห์ของเชียงคานที่คนมาท่องเที่ยวหลั่งไหลเป็นจำนวนมาก อันดับแรกก็คงจะเป็น บ้านเรือนไม้ ที่ยังคงอนุรักษ์ รักษาไว้ พร้อมกับการเกิดขึ้นของร้านขายของที่ระลึกนับสิบๆราย และยังมีที่พักแบบเกสต์เฮาส์หรือโฮมสเตย์อีกมากมายเกิดขึ้นอีกด้วย ที่ทั้งหมดได้พร้อมใจกันนำเอาอาคารไม้แบบดั้งเดิม มาตบแต่งเสียใหม่ให้น่ารักเก่ไก๋ แถมยังราคาไม่แพงอีกด้วยครับ

สิ่งที่น่าสนใจใน เชียงคาน ต่อมาก็คือเสน่ห์ของริมแม่น้ำโขง ที่เป็นธรรมชาติที่สวยงาม วิวที่ชมแม่น้ำโขงจากเชียงคานนี้ ต้องบอกว่าสวยชนิดที่ว่า หาชมแบบนี้ได้ยากจากที่อื่นจริงๆ ครับ อย่าลืมเตรียมกล้องมาให้พร้อมด้วยนะครับ เพราะมีจุดถ่ายรูปมากมายชนิดที่ว่า เที่ยวกัน 3 วัน ยังไม่แน่ใจเลยว่าจะถ่ายรูปกันหมดหรือไม่ ยังมีร้านเก๋ๆ ที่จัดเป็นมุมเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเก็บไว้อีกด้วย สามารถเรียกลูกค้าและนักท่องเที่ยว ล้วนแต่เป็นที่สวยๆน่าสนใจทั้งนั้น หลายร้านยังนิยมเล่นคำ กับป้าย เช่น คำว่า “เลย” และคำว่า “คาน” เรียกใหม่เป็น รักเลย เชียงคาน, ระวัง(ขึ้น)คาน น่ะ อันนี้ไม่ได้แช่งใครนะครับ แต่เป็นป้ายที่น่ารักๆ ของที่เชียงคานจริงๆ แค่อ่านป้ายที่นี่ก็เพลินแล้ว 

ใครที่หนาวนี้แล้วไม่รู้จะไปเที่ยวไหน เราขอแนะนำให้ตรงไปที่ เที่ยวเชียงคาน เลยครับ เหมาะแก่การท่องเที่ยวรับลมหนาวเป็นอย่างมาก มีทั้งที่เที่ยวธรรมชาติ บรรยากาศสไตล์แบบดั้งเดิมที่ท้องถิ่นได้อนุรักษ์เอาไว้ ที่ถ่ายรูปสวยๆ น่ารักๆ อีกมากมาย ต้องขอบอกว่าไปกันเลย ที่เชียงคานครับ

วันจันทร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวงานเทศกาลงานไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด จังหวัดขอนแก่น

อีกแค่เดือนเดียวก็ถึงสิ้นปีแล้ว เป็นประจำทุกปีที่จังหวัดขอนแก่นได้จัด งานเทศกาลงานไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด ประจำปี 2555 นี้ ได้เตรียมที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน 2555 ถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2555 รายงานข่าวระบุว่า นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เรียกประชุมคณะกรรมการจัดงานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด ประจำปี 2555 เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

งานเทศกาลไหมประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด จัดขึ้นมาเพื่อช่วยส่งเสริมอาชีพการทอผ้าไหม มีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมกันออกร้านแสดงผลิตภัณฑ์และจำหน่ายสินค้าพื้นเมือง (ผ้าไหม) สินค้า OTOP และของที่ระลึกอื่นๆ นอกจากนี้ยังมีการแสดงเพื่อฟื้นฟูและส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมท้องถิ่น ส่วนงานประเพณี ผูกเสี่ยว ก็เป็นประเพณีสำคัญที่จัดขึ้นพร้อมกันกับงานเทศกาลไหม พิธีผูกเสี่ยว เป็นพิธีเก่าแก่และดีงามพิธีหนึ่งของชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือชาวอีสาน และได้ปฏิบัติสืบทอดกันมาเป็นเวลานับศตวรรษ จังหวัดขอนแก่น ได้เล็งเห็นความสำคัญของพิธีผูกเสี่ยวนี้ จึงได้นำพิธีผูกเสี่ยวผนวกเข้ากับงานเทศกาลไหม ซึ่งเป็นงานประจำปีของจังหวัดขอนแก่นจึงได้นำพิธีผูกเสี่ยวผนวกเข้ากับงานเทศกาลไหม นั่นเอ

กิจกรรมภายใน งานเทศกาลงานไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด จังหวัดขอนแก่น




กิจกรรมที่จะจัดขึ้นในงานปีนี้นั้น จะมีขบวนแห่พิธีเปิดงานอย่างยิ่งใหญ่ พิธีผูกเสี่ยว บายศรีสู่ขวัญ ประกวดกลองยาว ประกวดสรภัญญะ การแสดงศิลปะและวัฒนธรรมพื้นเมืองของชาวอีสาน การออกร้านกาชาด ศาลาไหม การจำหน่ายสินค้า OTOP นิทรรศการผ้าไหมพื้นเมือง การออกร้านสินค้าราชทัณฑ์ การประกวดนางงามไหม มหรสพอื่นๆ และที่สำคัญและน่าสนใจมากคือ "ศิลปวัฒนธรรม" ที่มีการจัดประกวดพานบายศรี การผูกเสี่ยวให้กับคู่เสี่ยวที่มาเที่ยวงาน และงานพาแลงชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การประกวดดนตรีพื้นบ้านหลายรายการ โดยเพื่อเป็นการสืบสานและสร้างคุณค่าประเพณีวัฒนธรรมอันดีงามประจำถิ่นของคนขอนแก่น ให้ปลอดภัยจากเครื่องดื่มที่เป็นอันตราย

จังหวัดขอนแก่น จึงขอเชิญชวนพี่น้อง ทั้งในตัวจังหวัดขอนแก่นเองและจังหวัดใกล้เคียง หรือจังหวัดอื่นๆ ได้พาครอบครัวเที่ยวงานไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด ปี 2555 นี้กันซึ่งถือเป็นมิติใหม่ เป็นต้นแบบการจัดงานประเพณีที่ส่งเสริมคุณค่าวัฒนธรรมประจำถิ่น จากการเข้า และร่วมกิจกรรมเสี่ยงโชคช่วยกาชาด และที่สำคัญคือทุกคนจะได้รับความปลอดภัยจากการเที่ยวงานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ใครที่ยังไม่เคยเห็นงานเหล่านี้ก็สามารถมาร่วมงานดังกล่าวได้ ระหว่างวันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค. 2555 จำนวน 12 วัน 12 คืน ณ บริเวณสนาม หน้าศาลากลาง จ. ขอนแก่น มาเที่ยวงานเทศกาลงานไหม ประเพณีผูกเสี่ยวและงานกาชาด จังหวัดขอนแก่น กันนะครับ

วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวลอยกระทง จังหวัดอุดรธานี 2555

วันนี้ยังขอนำข่าวเกี่ยวกับการจัดงาน ลอยกระทง มาฝากอีกนะครับ คราวนี้จัดลอยกระทงขึ้นที่อุดรธานีครับ บอกได้เลยว่าจัดขึ้นยิ่งใหญ่ ไม่แพ้กับ เที่ยวสืบสานประเพณีลอยกระทง ของภาคอีสาน ที่ได้กล่าวไปแล้วเมื่อวานนี้ งานลอยกระทงที่อุดรธานีจะเป็นอย่างไร ไปติดตามกันเลยครับ

มาแล้วครับ การจัดงานประเพณีลอยกระทง เทศบาลนคร อุดรธานี ประจำปี 2555 ได้กำหนดจัดงานประเพณีลอยกระทง เทศบาลนครอุดรธานี ประจำปีนี้ขึ้นในวันพุธที่ 28 พฤศจิกายนนี้ (ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒) ณ ถนนเทศา บริเวณลานอเนกประสงค์หน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ที่สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี งานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของคนไทยให้คงอยู่สืบต่อไปและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดอุดรธานีอีกด้วยครับ โดยการจัดงานประเพณีลอยกระทง เทศบาลนครอุดรธานี  ได้จัดให้มีกิจกรรมต่างๆ ภายในงาน ดังนี้ครับ

1. การโชว์กระทงสวยงามของชุมชน 4 เขต

2. การประกวดกระทงของหน่วยงาน บริษัท  ห้างร้าน  สถาบันการศึกษา

3. การประกวดหนูน้อยนพมาศ

4. การประกวดนางนพมาศ

5. การประกวดวาดภาพระบายสีหัวข้อ “อุดรธานีในฝัน”

6. การโชว์พลุสวยงาม

7. การแสดงดนตรีและการแสดงบนเวทีของนักเรียนสังกัดเทศบาลนครอุดรธานี,ศิลปินโจแอล  บุญสูงเนิน


ทางเทศบาลนครอุดรธานี  จึงได้ขอประกาศเชิญชวนชุมชน  หน่วยงาน  บริษัท ห้างร้าน สถาบันการศึกษาและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานประเพณีลอยกระทง  เทศบาลนครอุดรธานี ประจำปี 2555 นี้ ถ้าลอยกระทงปีนี้ ไม่รู้จะไปลอยที่ไหน หรือจะไปเที่ยวที่ไหน ก็ขอเชิญที่นี่เลยครับ เที่ยวลอยกระทง จังหวัดอุดรธานี 2555 รับรองได้ความสนุกสนานเพลิดเพลินกลับบ้านแน่นอนครับ ขอบอก

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวสืบสานประเพณีลอยกระทง ของภาคอีสาน

สวัสดีครับ ใกล้จะถึง วันลองกระทง กันแล้ว ใครที่ยังไม่รู้จะไปลอยกระทงกันที่ไหน ตามผมมาเลยครับ เพราะว่าวันนี้จะขอพาเพื่อนๆ ไปแนะนำที่เที่ยวสืบสานประเพณีลอยกระทง ของภาคอีสาน กันโดยทาง ททท.ขอนแก่น ได้เชิญชวนทุกๆท่านมาร่วมกันสืบสานและสัมผัสบรรยากาศอันงดงามของประเพณีลอยกระทงในแบบฉบับของวิถีอีสาน ร่วมกับ 4 จังหวัดใจกลางภาคอีสาน นี้นะครับ

ข้อมูลการท่องเที่ยวอีสาน รวบรวมมารายงานให้เพื่อนๆทราบกันครับ นายนพรัตน์  กอกหวาน ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น เปิดเผยว่า ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ของทุกปี หรือ คืนวันเพ็ญเดือนสิบสอง คือจะตรงกับงานประเพณีสำคัญของชาวไทย เพื่อให้ชาวไทยได้ร่วมกันขอขมาต่อพระแม่คงคา โดยการจัดเตรียมกระทงที่ประดับประดาไปด้วยดอกไม้อย่างสวยงาม พร้อมกับจุดธูปเทียนบูชา แล้วให้ตั้งจิตอธิษฐานก่อนนำปล่อยลงให้ลอยลงไปตามสายน้ำ

ภายใต้คืนพระจันทร์เต็มดวงในวันเพ็ญเดือนสิบสองนี้ ตามคติโบราณมีความเชื่อกันว่ากระทงจะช่วยนำพาความโชคร้ายต่างๆในชีวิตที่เรามีให้หายออกไปตามกระทงที่ปล่อยลงไปในแม่น้ำ โดยในแต่ละท้องถิ่นจะมีเอกลักษณ์ของงานที่แตกต่างออกไปและในพื้นที่ และในใจกลางภาคอีสานของเรานี้ก็จะจัดให้มีงานประเพณีลอยกระทงที่จะมีการจัดขึ้นอย่างรื่นเริงและงดงามตามแบบฉบับวิถีอีสาน โดยมีรายละเอียด ดังนี้ครับ

รายละเอียดในวันงานเที่ยวสืบสานประเพณีลอยกระทง ของภาคอีสาน

 1. งานประเพณีลอยกระทงบึงสีฐาน

วันที่ 28 พ.ย. 2555 ณ บริเวณบึงสีฐาน ม.ขอนแก่น อ.เมือง จ.ขอนแก่น

2. งานย้อนรอยวิถีอีสาน วัฒนธรรมโบราณ เทศกาลลอยกระทง เทศบาลตำบลบ้านเป็ด

วันที่ 28 พ.ย. 2555 ณ บริเวณสวนสาธารณะบึงหนองโคตร อ.เมือง จ.ขอนแก่น

3. งานประเพณีสมมาน้ำคืนเพ็งเส็งประทีปเมืองร้อยเอ็ด

วันที่ 27-28 พ.ย. 2555 ณ บึงพลาญชัยและสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด

4. งานคืนสิบสองเพ็ญเล่นโคมไฟไต้ประทีปเมืองมหาสารคาม

วันที่ 28 พ.ย. 2555 ณ บริเวณริมคลองสมถวิล อ.เมือง จ.มหาสารคาม

5. งานประเพณีลอยกระทงเมืองกาฬสินธุ์

และในวันที่ 28 พ.ย. 2555 ณ สวนสาธารณะกุดน้ำกิน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์

ทางผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานขอนแก่น ได้กล่าวเพิ่มเติมเอาไว้ว่า ในช่วงเวลาก่อนจะเข้าสู่ค่ำคืนแห่งการขอขมาพระแม่คงคา เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเสริมสิริมงคลแห่งชีวิตเพิ่มเติมด้วยการไปสักการะนมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ยังพุทธสถานสำคัญใกล้เคียงได้อีกด้วย อาทิเช่น วัดพระธาตุขามแก่น จ.ขอนแก่น พระมหาธาตุแก่นนคร วัดหนองแวง จ.ขอนแก่น และพระธาตุยาคู จ.กาฬสินธุ์ เป็นต้น

ทาง ททท. สำนักงานขอนแก่นจึงขอเชิญชวนทุกๆท่านได้มาร่วมสัมผัสงานประเพณีลอยกระทง ณ ใจกลาง อีสาน กันนะครับ ผมหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมาก จะได้ร่วมกันสืบสานประเพณีและวัฒนธรรมของการลอยกระทง ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อจะได้ ประเพณีวันลอยกระทง ของภาคอีสาน และของชาวไทย สืบต่อไป เราชาวไทยผู้เป็นเจ้าบ้านควรให้การต้อนรับ นักท่องเที่ยวที่มาจากต่างชาติ จะได้สร้างรอยยิ้มให้กับแขกผู้มาเยือน กลับบ้านไปอย่างประทับใจนะครับ


วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวน้ำตกตาดฟ้า อุทยานแห่งชาติภูเวียง จังหวัดขอนแก่น

สวัสดีครับ วันนี้จะขอพาไปเล่นน้ำที่ น้ำตกตาดฟ้า กันครับ เตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม ถ้าเตรียมพร้อมแล้วก็ไปกันเลยครับ พูดถึงอุทยานแห่งชาติภูเวียงแล้วจะมี น้ำตกตาดฟ้า ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของที่นี่ อยู่ใน ตำบลภูเวียง อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น น้ำตกตาดฟ้า เป็นน้ำตกขนาดกลางอยู่ทางทิศเหนือของเทือกเขาภูเวียง มีเส้นทางเดินเท้าขึ้นเขาระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร จากด่านตรวจโคกสูง และมีความสูงประมาณ 30 เมตร สภาพป่าเป็นป่าดิบที่อุดมสมบูรณ์ ทางอุทยานแห่งชาติได้จัดสถานที่กางเต็นท์ไว้ให้สำหรับผู้ประสงค์จะพักแรม

ลักษณะเด่นและความสำคัญ คือ เป็นน้ำตกธรรมชาติที่สวยงาม เกิดจากลำห้วยตาดฟ้า รอยต่อของอำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น กับอำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ มีความสูงราวๆ 30 เมตร ส่วนใหญ่ถ้าถึงฤดูฝนน้ำจะไหลแรง มีสายน้ำที่ตกลดหลั่นเป็นม่านที่งดงาม เหมาะแก่การเล่นน้ำและถ่ายภาพมาก นอกจากนั้นบริเวณรอบๆ น้ำตกยังเต็มไปด้วยสภาพป่าเป็นป่าดิบที่อุดมสมบูรณ์ ในช่วงหน้าร้อนโดยเฉพาะวันสงกรานต์ ที่น้ำตกตาดฟ้าจะมีความคึกคักเป็นพิเศษ เพราะนักท่องเที่ยวจำนวนมากจะมาเล่นน้ำที่น้ำตกแห่งนี้กัน ทางอุทยานแห่งชาติจึงได้จัดสถานที่กางเต็นท์ไว้ให้สำหรับผู้ประสงค์จะพักแรมเอาไว้ให้อีกด้วย

ปัจจุบันการเดินทางไป น้ำตกตาดฟ้า สะดวกสบาย เพราะตัวน้ำตกนั้นอยู่ใกล้เมือง ไม่เหมือนน้ำตกอื่นๆ ที่ค่อนข้างเดินทางไปมาลำบากพอสมควร มีทางรถยนต์เข้าถึงแล้ว ถ้ามาจากจังหวัดขอนแก่น ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (ขอนแก่น-ชุมแพ) ผ่านอำเภอบ้านฝาง อำเภอหนองเรือ ถึงทางแยกไปอำเภอภูเวียง ระยะทางประมาณ 48 กิโลเมตร จึงแยกตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2038 ไปประมาณ 38 กิโลเมตร จึงถึงอุทยานแห่งชาติภูเวียง หากมีโอกาสมาเที่ยวขอนแก่นในช่วงหน้าร้อน หรือหน้าฝน และไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี น้ำตกตาดฟ้าก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่อยากให้เพื่อนๆมาเที่ยวน้ำตกตาดฟ้าได้เช่นกัน ดังนั้นชวนเพื่อนๆมาเที่ยวน้ำตกตาดฟ้ากันนะครับ

วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวชมสุดยอดสายน้ำ ในแม่น้ำโขง ชี มูน อีสานใต้

ถ้าเพื่อนๆที่เคยไปทางภาคอีสานแล้ว คงจะเคยได้ยินกิตศัพท์ถึง แม่น้ำโขง แล้วใช่ไหมครับ เพราะว่าแม่น้ำโขงนั้นเป็นสุดยอดแม่น้ำของภาคอีสานเลยก็ว่าได้ เนื่องจากแม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำนานาชาติที่ไหลเข้าสู่ประเทศไทยครั้งแรกในภาคเหนือที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เป็นระยะทางสั้นๆ ก่อนจะออกจากประเทสไทยที่อำเภอเชียงของ ในจังหวัดเดียวกัน จากนั้นแม่น้ำโขงจึงไหลกลับเข้าสู่ประเทศไทยอีกครั้งในแผ่นดินอีสาน ทางอำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย แล้วจากเชียงคานไป แม่น้ำโขงก่อให้เกิดหาดทราบ โขดหิน และเกาะแก่งที่สวยงามมากมายหลากหลาย โดยเฉพาะที่ อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย มีที่พักและรีสอร์ตมากหลายได้รับการจัดสร้างขึ้นไว้รองรับนักท่องเที่ยวผู้มาชมความสวยงามของแม่น้ำโขงที่นี่เอาไว้มากมาย

สถานที่ที่เพื่อนๆ ควรจะไปสัมผัสให้ได้นั่นคือ สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 ครับเพราะเป็นสะพานนานาชาติแห่งแรกที่พาดข้ามไปบนแม่น้ำสายนี้ ไปเชื่อมกับมิตรภาพของสองฝั่งโขง เชื่อมร้อยใจลาว-ไทยน้องพี่เข้าด้วยกัน จากสะพานมิตรภาพ แม่น้ำโขงก็ขยายตัวกว้างใหญ่ ทอดผ่านเมืองสองฟากฝั่งที่ล้วนเป็นเมืองสำคัญของสองประเทส เช่น เมืองบึงกาฬ ที่แยกออกมาจากหนองคาย เมืองบอลิคัน เมืองนครพนม และเมืองท่าแขก จนมาพบกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 ที่จังหวัดมุกดาหาร จากนั้นแม่น้ำโขงก็ไหลต่อลงไปผ่านเมืองเขมราฐ ก่อให้เกิดแก่งหินที่สวยงามขึ้นอีกหลายชุดก่อนจะไปสุดท้ายออกจากประเทสไทยที่อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานีครับ

จะเห็นว่าในระหว่างทางเดินของแม่น้ำโขงที่ไหลผ่านนั้นได้ก่อให้เกิดสิ่งดีๆ มากมาย ประชาชนที่อยู่ทั้งสองฟากฝั่งก็ใช้แม่น้ำโขงเป็นแหล่งอาหาร แหล่งทำมาหากินด้านการเกษตรและการประมงมากมาย ที่หน้าเมืองนครพนมและเมืองเวียงจันทน์เกิดเป็นหาดทรายกว้างใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามของทั้งสองประเทศอีกด้วย งานเทศกาลประเพณีที่เกี่ยวข้องกัยการท่องเที่ยว เช่น ประเพณีแข่งเรือ ประเพณีไหลเรือไฟ และปรากฏการณ์ บั้งไฟพญานาค เกิดขึ้นเป็นประจำในแต่ละเทศกาล ก็ก่อให้เกิดการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวออกไปอย่างกว้างขวาง

ส่วนใน แม่น้ำมูน  นั้นก็เป็นแม่น้ำสายที่กว้างใหญ่และยาวที่สุดในภาคอีสานครับ เกิดขึ้นจากแนวทิวเขาสันกำแพงบางส่วน และทิวเขาพนมดงรักอีกบางส่วน แม่น้ำมูนไหลลงไปกลายเป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำโขง ตรงจุดที่แม่น้ำมูนไหลลงแม่น้ำโขงเรียกว่า แม่น้ำสองสี เมืองโขงเจียม ที่จังหวัดอุบลราชธานีครับ

ส่วนใน แม่น้ำชี ก็มีต้นกำเนิด มาจากแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ แล้วไหลผ่านไปยังที่ราบตอนกลางของภาคอีสาน ในจังหวัดขอนแก่น ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ยโสธร แล้วไหลมาลงยังแม่น้ำมูนที่จังหวัดอุบลราชธานี ต่อจากนั้นจึงรวมกันไหลลงแม่น้ำโขงที่ปากมูลอีกต่อหนึ่งครับ

จะเห็นว่าการได้มาท่องเที่ยวภาคอีสานนอกจากจะท่องเที่ยวชื่นชมประเพณีวัฒนธรรม ทางภาคอีสานแล้ว ธรรมชาติของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก หรือแม้แต่ วัด เจดีย์ และเทศกาลต่างๆ ก็มีไม่แพ้ภาคอื่นๆเหมือนกันครับ ลองมา เที่ยวอีสาน มาชื่นชมความยิ่งใหญ่ของ แม่น้ำโขง แม่น้ำชี และแม่น้ำมูน กันนะครับ

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวภูกระดึง รับลมหนาว ชมธรรมชาติภาคอีสาน

วันนี้จะพาเพื่อนๆไปเที่ยวภูกระดึงครับ เมื่อพูดถึงภูเขาแล้วสิ่งที่ไปกันได้ดีก็คือเรื่องของการท่องเที่ยว แน่นอนครับ เพราะว่าบนภูเขามีสิ่งดึงดูดความสนใจให้ขึ้นไปเที่ยวชมมากมาย ไม่ว่าจะชมพราะอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตก หรือว่ารับลมหนาว อากาศเย็นๆ สบายๆ ไปปีนเขา และกางเต้นท์ ชมวิว เที่ยวชมธรรมชาติ ล้วนแล้วแต่สร้างบรรยากาศที่โรแมนติกน่าหลงไหล จึงทำให้หลายคน ขึ้นไปเที่ยวบนภูเขาเพื่อลิ้มรสชาติความเป็นธรรมชาติที่เมืองไทยมีให้เห็นกันหลายที่

ภูกระดึงก็เป็นอีกที่หนึ่งที่อยากให้เพื่อนๆ ได้ไปกันอุณหภูมิบนภูเขาทั้งกลางวันกลางคืนก็หนาวเย็น สร้างบรรยากาศโรแมนติก โดยเฉพาะคู่หนุ่มสาว หรือเพื่อนๆ ชวนให้เบียดกายใกล้ชิดสนิดแนบ เหมาะแก่การพาคู่รักหรือเพื่อนร่วมใจไปสนุกสนานเปลี่ยนบรรยากาศ ภูเขาจึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตติดอันดับของผู้คนทั่วโลกนั่นเองครับ โดยเฉพาะแนวทิวเขาของอีสานประกอบไปด้วยแนวทิวขาเพชรบูรณ์และแนวทิวเขาดงพญาเย็น ที่เป็นเสมือนสันกั้นพรมแดนระหว่างภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคอีสาน จากที่ราบลุ่มภาคกลาง จะขึ้นสู่ที่ราบสูงไปทางภาคอีสานก็ต้องทะลุแนวภูเขานี้ขึ้นไปทั้งสิ้น ต่ำลงมาก็มาประชิดกับภาคตะวันออกตามชายฝั่งทะเล คือเทือกเขาสันกำแพง ที่ด้านหนึ่งเป็นจังหวัดปราจีนบุรีและสระแก้ว กับอีกด้านหนึ่งก็คือพื้นที่อำเภอโนนสูง เสิงสาง และครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ทิวเขานี้ยังเชื่อมโยงต่อไปถึงพนมดงรัก ซึ่งเป็นแนวกั้นอีสานกับดินแดนกัมพูชาและ สปป.ลาว และทั้งหมดนี้ก็คือ แนวภูเขาที่กั้นอีสานออกเป็นเอกเทศ แทบจะเป็นที่ราบกลมๆ บนที่สูง จากอีสานจะลงมาภาคกลางหรือไปภาคเหนือ อย่างไรเสียก็ต้องเจอภูเขา จะไปตามทางราบๆ ตลอดไม่ได้ครับ

หลังจากที่ทราบเรื่องราวของภูเขาทางภาคอีสานไปบ้างแล้วนอกจากนี้ ยังมีอีกครับ นั่นคืออีสานยังมีแนวเทือกเขาภูพานที่เป็นเส้นตัดขวางแบ่งกั้นให้เกิดเป็นอีสานเหนือ คือ จังหวัดอุดรธานี หนองคาย สกลนคร นครพนม และเลย และอีสานใต้ที่มีอยู่อีกมากมายหลายจังหวัด ทั้งหมดเสมือนถูกตัดแยกออกจากกันอย่างเด่าชัดด้วยเทือกเขาภูพานแห่งนี้ และในบรรดาเทือกภูเขาสูงอีสานหลากหลายนี้ เทือกเขาเพชรบูรณ์ดูจะเป็นเทือกเขาที่มีพื้นที่กว้างขวางที่สุดในบรรดาภูเขาทั้งหลายในแถบนี้ ก่อให้เกิดภูเขาย่อยๆ ที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีความหลากหลายของสรรพชีวิตสวยงามมากมายหลายแห่ง และหากจะกล่าวกันถึงเรื่องท่องเที่ยวแล้ว ก็เชื่อแน่ว่าไม่มีใครปฏิเสธ หากจะยกตำแหน่งสุดยอดภูเขาท่องเที่ยวให้กับภูกระดึง แห่งเทือกเขาเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย ย่อมมีแต่คนเห็นด้วยกันทั้งสินครับ 

ถ้าเพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวภูกระดึง แล้วจะรู้ว่าที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเก่าแก่ที่ไม่เคยเสื่อมคลายมนตร์ขลัง เพราะที่ภูกระดึงนี้มีทุกๆ อย่างที่นักท่องเที่ยวต้องการ จุดเด่นของภูกระดึงคือความสวยงามของภูเขา สายหมอกหน้าผา พรรณไม้ และสัตว์ป่า กล่าวกันว่า ถ้านักท่องเที่ยวจะเริ่มต้นออกเดินทางท่องธรรมชาติ ภูกระดึงจะเป็นเสมือนโรงเรียนประถมต้นของการท่องเที่ยวภูเขากันเลยที่เดียว ดังนั้นถ้าเพื่อนๆมีโอกาสไปท่องเที่ยวในหน้าหนาวนี้ ผมจึงอยากชวนเพื่อนๆ ให้ไปเที่ยวภูกระดึง รับลมหนาว กันครับ แล้วเพื่อนๆ จะเห็นว่าการได้ไปเที่ยวภูเขาสักแห่งในเมืองไทย ภูกระดึงนี้น่าไปเที่ยวอย่างแน่นอนครับ

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

เที่ยวงานแสดงช้าง งานมหัศจรรย์งานช้าง จ.สุรินทร์

สวัสดีครับ วันนี้เราอีสานอินดี้ไลค์ จะพาเพื่อนๆไปท่องเที่ยวอีสาน และเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ตามเทศกาลในภาคอีสานของเรา ไปกันเลยครับ สถานที่แรกที่จะพาเพื่อนๆไปที่จังหวัดสุรินทร์ครับ เราไปเที่ยวชมของดีที่จังหวัดสุรินทร์นี้กัน เรียกกว่างานช้างสุรินทร์ครับ จะใหญ่แค่ไหนอย่างไร เราไปกันเลยที่จังหวัดสุรินทร์ครับ

ขอเชิญเที่ยวงานแสดงช้าง เพราะว่าด้วยความ มหัศจรรย์งานช้าง จังหวัดสุรินทร์ครั้งที่ 52 ชมที่ใหญ่ที่สุดในโลกโดยงานเริ่มตั้งแต่วันที่: 14-25 พฤศจิกายน 2555 รวม 12 วัน บุฟเฟ่ช้าง: 15-16 พฤศจิกายน 2555 ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง เพื่อเลี้ยงต้อนรับช้างเข้าเมืองกว่า 300 เชือก ที่มาร่วมแสดงงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์

อีกที่หนึ่งคืองานช้างเหมือนกัน จังหวัดสุรินทร์ เปิดจองตั๋วชมการแสดงของช้าง ในงาน“มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” ในวันที่ 17 -18 พฤศจิกายนนี้ ในราคาบัตร 500 บาท และ 1,000 บาท นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงาน“มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” ประจำปี 2555 เป็นปีที่ 52 ระหว่างวันที่ 14 – 25 พฤศจิกายน รวม 12 วัน ที่สนามกีฬาศรีณรงค์ โดยการจัดแสดงของช้าง จะมี 2 วัน ๆ ละ 1 รอบ ในวันเสาร์ ที่ 17 และวันอาทิตย์ 18 พฤศจิกายน 2555 ที่สนามแสดงช้างจังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ทั้งนี้ เพื่อแสดงวิถีชีวิตความผูกพันระหว่างช้างกับชาวสุรินทร์ การจำลองพิธีกรรมเกี่ยวกับการเลี้ยงช้าง การแสดงความสามารถของช้าง รวมทั้งเพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของท้องถิ่น งานแสดงช้างเต้นระบำ(กัมนังไสตล์ อิอิ) คล้องช้างแบบโบราณ ช้างวิ่งเก็บของ ช้างเตะฟุตบอล ช้างชักคะเย่อกับทหาร ช้างวาดรูป และอื่นๆที่อุบไว้มากมาย งานแสดงประวัติศาสตร์คชหัตถี เรือมอัปสราปราสาทหิน ศรีขรภูมิ

สำหรับผู้ที่จะเข้าชมการแสดงของช้าง มีบัตรจำหน่ายในราคาบัตร 40 บาท ตั่วยืน บัตรราคา 300 บาท 500 บาท และ 1,000 บาท นั่งตามเลขที่บัตร ทั้งนี้ผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่งล่วงหน้าเฉพาะบัตรราคา 500 บาท และ 1,000 บาท ได้ที่ฝ่ายอำนวยการ สำนักงานจังหวัดสุรินทร์ โทร. 0 – 4451 - 2039 โดยโอนเงินค่าบัตร ชื่อบัญชี งานแสดงช้างและกาชาดจังหวัดสุรินทร์ เลขที่บัญชี 310 – 0 – 42667 – 3 บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาสุรินทร์ หรือสามารถ Download ใบจอง ได้ที่ www.surin.go.th

และที่จังหวัดสุรินทร์เอง ได้เตรียมมอบน้ำดื่มและสิ่งของให้เจ้าของช้างที่มาร่วมในงานมหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ประจำปี 2555 ด้วย นายสมศรี บุญมี ประธานชมรมวิทยุกระจายเสียงจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์กำหนดจัดงาน มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์ ประจำปี 2555 "AMAZING SURIN ELEPHANT ROUND-UP 2012” ระหว่างวันที่ 14 - 25 พฤศจิกายน 2555 ณ สนามกีฬาศรีณรงค์ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองอันดีงามและอนุรักษ์การแสดงช้างซึ่งเป็นสัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติไทย ในงานดังกล่าวจะมีการแสดงช้างที่ยิ่งใหญ่และมีจำนวนช้างประกอบการแสดงมากถึง 300 เชือก ดังนั้นเพื่อเป็นกำลังใจให้เจ้าของช้างและช้าง ชมรมนักวิทยุกระจายเสียงจังหวัดสุรินทร์จึงกำหนดจัดโรงทาน 1 แห่ง ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2555 ณ ค่ายพักเจ้าของช้าง ในค่ายวีรวัฒน์โยธินจังหวัดสุรินทร์ และมอบน้ำดื่ม สิ่งของที่เตรียมไว้ให้เจ้าของช้างเชือกละ 1 ชุด และอาหารช้างอีกจำนวนหนึ่ง จึงขอเชิญประชาชนทั่วไปร่วมบริจาคน้ำดื่ม หรือสิ่งของแก่เจ้าของช้าง ณ บริเวณหน้าอาคารโอทอป องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ในวันที่ 16 พฤศจิกายน นี้

อย่าลืมพฤศจิกายนนี้ เราไปเที่ยว งานแสดงช้าง จังหวัดสุรินทร์กันให้ได้นะครับ รวมงานช้างไว้ด้วยกัน หวังว่าเพื่อนๆจะได้เที่ยวงานแสดงช้าง จังหวัดสุรินทร์กันให้สนุกเลยนะครับ แล้วคอยติดตามเรื่องราวท่องเที่ยวของเราต่อไปได้ที่ อีสานอินดี้ ไลค์ นะครับ